|
เรื่องวิญญาณนางทาส | |
ผู้ตั้งกระทู้ เดโช :: วันที่ลงประกาศ 2006-08-03 15:47:05 IP : 125.24.10.82 |
[1] |
ความคิดเห็นที่ 1 (564576) | |
สวัสดีค่ะ คุณเดโช ไม่ทราบว่ามีข้อสงสัยอันใดจักถามไถ่เกี่ยวกับ "ละครเรื่อง วิญญานนางทาสรึคะ" โพสได้เลยค่ะมิต้องอาย รับรองว่าเราจะตอบทุกๆข้อสงสัยแน่นอนค่ะ | |
ผู้แสดงความคิดเห็น Admin วันที่ตอบ 2006-08-03 21:06:45 IP : 203.151.140.123 |
ความคิดเห็นที่ 2 (2653482) | |
เรื่องวิญญาณนางทาสเป็นเรื่องจริงหรอคะ | |
ผู้แสดงความคิดเห็น นิด วันที่ตอบ 2008-05-16 07:25:07 IP : 118.173.142.135 |
ความคิดเห็นที่ 3 (2786614) | |
เป็นเรื่องที่แต่งขึ้นแต่ว่าอิงค์กับประวัติศาสตร์ในยุคนั้นค่ะ | |
ผู้แสดงความคิดเห็น น้ำ_รังสิมันต์*-* วันที่ตอบ 2008-05-22 00:41:54 IP : 118.174.121.192 |
ความคิดเห็นที่ 4 (2894428) | |
งง คับ งง ตับ งงง๊ง.......
งงอะคับอ่านม่ายออก
| |
ผู้แสดงความคิดเห็น ฝสาใ วันที่ตอบ 2008-08-19 11:39:32 IP : 58.136.48.124 |
ความคิดเห็นที่ 5 (2894430) | |
มานเปงเรื่องเกี่ยวกาบวิญญาณคนใช้......... ที่ม่ายมีคัยคาดคิด........... ว่ามานมีจิงๆๆๆๆๆๆ........................... | |
ผู้แสดงความคิดเห็น ด้ททอทื (giugkfbvf-at-hotmail-dot-com)วันที่ตอบ 2008-08-19 11:42:47 IP : 58.136.48.124 |
ความคิดเห็นที่ 6 (2898294) | |
ก็อาจจะเป็นจริงก็ได้นะใครจะเชื่อเนอะ..แต่ตอนที่เล่นก็มีเหตุการณ์ชวนขนลุกเหมือนกันค้าบบ.. | |
ผู้แสดงความคิดเห็น เจมส์ รังสิมันต์ วันที่ตอบ 2008-08-26 17:23:19 IP : 124.121.2.224 |
ความคิดเห็นที่ 7 (2898505) | |
ช่ายๆอันนี้ยืนยัน นอนยัน นั่งยันเลยหล่ะ เรื่องแบบนี้ไม่เชื่อก็อย่าลบหลู่นะคะ (โปรดใช้วิจารณญาณในการฟังและรับชมค่ะ) เด็กที่อายุเกิน25 ปีขึ้นไปควรมีผู้ใหญ่ช่วยแนะนำค่ะ อิอิ | |
ผู้แสดงความคิดเห็น น้ำ_รังสิมันต์*-* วันที่ตอบ 2008-08-27 01:32:40 IP : 118.174.157.185 |
ความคิดเห็นที่ 8 (2915705) | |
เรื่อง ผี***นที่บุรีรัมย์ | |
ผู้แสดงความคิดเห็น เจนจิรา วันที่ตอบ 2008-09-30 18:39:49 IP : 125.26.171.120 |
ความคิดเห็นที่ 9 (2915706) | |
หลวงปู่แหวนเล่าเรื่องผีเปรต เมื่อครั้งที่ หลวงปู่แหวน สุจิณฺโณ บวชได้ไม่กี่พรรษา และมีวาสนาถวายตัวเป็นศิษย์ของท่าน พระอาจารย์มั่น ภูริทตฺโต ท่านได้รับคำสั่งสอนแนะนำในข้อธรรมต่างๆ อย่างกระจ่างแจ้ง ทำการเจริญภาวนากระทำความเพียรก้าวหน้าไปอีกหลายระดับ เป็นกำลังใจให้เกิดความวิริยะมานะที่จะสะบั้นสายใยแห่งกิเลสจนกว่าจะหมดสิ้น ในภพชาตินี้ ขณะจำพรรษาอยธู่กับพระอาจารย์มั่นที่บ้านนาหมีนายูง อำเภอน้ำโสน อุดรธานี ท่านพระอาจารย์มั่นได้บอกเล่าให้ ฟังว่า ใกล้ฝั่งแม่น้ำโขงมีถ้ำอยู่ถ้ำหนึ่ง ที่ถ้ำนั้นมีเปรตตนหนึ่งสิงสู่อยู่ไม่ยอมไปไหน หากหลวงปู่แหวนไปบำเพ็ญเพียรที่ใดนั้นก็ให้ถามเปรตดูสิว่าชาติก่อนกระทำกรรม อะไรไว้ถึงได้มาเกิดเป็นเปรต การที่ท่านพระอาจารย์มั่น กล่าวเช่นนี้ อาจจะมีเจตนาต้องการให้ศิษย์ผู้อ่อนพรรษาได้เรียนรู้สภาวธรรมด้วยการสัมผัส ตามความเป็นจริงโดยตัวเองก็ได้ เมือหลวงปู่แหวนน้อมรับคำบอกเล่าเช่นนั้นท่านจึงเดินทางไปที่ถ้ำดังกล่าว เพียงรูปเดียว ณ. ที่ถ้ำนี้เป็นสถานที่ร่มรื่นสงบสงัด เหมาะสมที่จะเจริญภาวนาอย่างยิ่ง ภายในถ้ำสะอาดสะอ้าน ด้านนอกปากถ้ำเป็นพื้นที่ราบเรียบพอจะใช้เป็นทางเดินจงกรมได้ ครั้นถึงเวลาเย็น เมื่อทำวัตรสวดมนต์แล้วท่านก็เข้าที่ภาวนาภายในถ้ำ ได้รับผลตามประสงค์ไม่มีอุปสรรค ตราบทั่งเช้าวันรุ่งขึ้น คืนแรกผ่านไปด้วยดี คืนที่สองไม่มีสิ่งผิดปกติ กระทั่งคืนทีสามรูปเงาของเปรตจึงเริ่มปรากฎ โดยแสดงกายมืดดำ และมีความสูงใหญ่ น่าพรั่นพรึง ยืนปักหลักขวางหน้าถ้ำ หลวงปู่แหวนเห็นเปรตแล้วก็มิได้หวาดหวั่นแต่ประการใด เพียงแต่แผ่เมตตาให้ด้วยจิตกุศลเต็มเปี่ยม ปรารถนาจะให้พลังแห่งความเมตตาผ่อนคลายความทุกข์ซึ่งสุมรุมเปรตตนดังกล่าว อยู่ จากนั้นก็กำหนดจิตถามเปรตไปว่า "ชาติก่อนเคยทำกรรมอะไรไว้ถึงได้มาเป็นเปรต" เปรตตนนั้นเงียบเฉยไม่ตอบ และอันตรธานหายไป หลายคืนต่อมาปรากฎว่าเปรตตนเดิมาแสดงร่างร้ายให้หลวงปู่แหวนเห็นทุกคืนใน ลักษณะคืนแรก คือมายืนตระหง่านเงียบงันด้วยร่างอันสูงใหญ่ทะมึนดำ ประหนึ่งต้องการข่มขวัญให้พระธุดงค์กรรมฐานเกิดความหวาดกลัว ทว่าหลวงปู่แหวนมีจิตที่มั่นคงแน่วแน่อยู่ในธรรม ฉะนั้นท่านจึงตัดขาดไปจากความพรั่นพรึงทั้งปวงหมดสิ้น ........กระทั่งคืนหนึ่งเปรตมาปรากฎร่างให้หลวงปู่แหวนเห็นอีก เมื่อท่านแผ่เมตตาให้แล้ว กำหนดจิตสอบถามเช่นครั้งก่อนๆ คราวนี้เปรตยอมพูดติดต่อด้วย โดยเล่าให้หลวงปู่แหวนฟังว่า ชาติ ก่อนเมื่อเป็นมนุษย์เพศชายตนเป็นนักเลงไก่ชน ลุ่มหลงในการชนไก่ ซึ่งมีเดิมพันมาใช้จ่ายอย่างสำราญ คราวใดไก่ชนของตนพ่ายแพ้เสียเงินเดิมพันไปตนก็จะถูกโทสะครอบงำจัดการฆ่าไก่ ตัวที่ชนแพ้ และหากไก่ชนตัวใดสู้จนได้รับบาเจ็บหนัก หรือพิการ ตนก็จะฆ่าเอมากินหมดเช่นกัน ได้กระทำกรรมชั่วนี้เป็นอาจิณตั้งแต่หนุ่มยันแก่ ครั้นอายุมากก็ล้มป่วย มีอาการเจ็บปวดแสนสาหัสจนสิ้นใจตาย ตายแล้วยังต้องไปรับกรรมในนรกเป็นเวลานานจนประมาณมิได้ ครั้นพ้นจากนรกจึงมาผุดเป็นเปรต หลวงปู่แหวนจึงถามว่า "เหตุใดไม่ไปผุดไปเกิดเสียที ทำไมต้องมาเป็นเปรตเฝ้าถ้ำ เฝ้าป่า ให้ลำบากทุกข์ยากเช่นนี้" เปรตตอบว่า เหตุที่เป็นเช่นนี้ เพราะยังห่วงเรื่องอาหารที่ได้เสพ เนื่องจากชาวบ้านที่อยู่ย่านนี้ นำหมูเห็ดเป็ดไก่ มาเซ่นสังเวยทุกครั้งที่เข้ามาตัดไม้และหาของป่า หากไปอยู่ที่อื่นกลัวจะอดอยาก เปรตยังเล่าต่อว่า หากชาวบ้านไม่เซ่นสังเวย ตนก็จะกระทำให้เจ็บไข้ได้ป่วย ชาวบ้านจึงกลัวตนมาก หลวงปู่แหวนได้เทศนาชี้ทางให้เปรตผละจากที่อยู่อาศัยนี้ไปเสียเถิด เพราะถ้าจิตหลุดจากความยึดมั่นถือมั่นได้เมื่อใด ตนเองก็จะมีโอกาสไปเกิดใหม่ตามกระแสกรรมของตน มิเช่นนั้นก็ต้องจ่อมจมอยู่ก้บถ้ำแห่งนี้ เพราะความยึดมั่นยึดเหนี่ยวฉุดรั้งไว้ และถ้าสิงอยู่ถ้ำแห่งนี้ด้วยความหวงแหนสถานที่คอยหวาดระแวงว่าจะมีผู้อื่นมา แย่งถ้ำนี้ไปเปรตย่อมแสดงตัวให้ผู้พบเห็นหวาดกลัวเพื่อให้หนีไปเสีย หากมีพระธุดงค์รูปอื่นจาริกผ่านมา เปรตแสดงตัวเจตนาขับไล่เช่นที่เคยทำมา พระธุดงค์มีจิตเข้มแข็ง และมีสติมั่นคงย่อมไม่เกิดผลร้ายอะไร แต่หากพระธุดงค์จิตไม่แก่กล้า หวาดกลัวจนไร้สติ ย่อมเป็นผลให้เสียจริต หรืออาจถึงมรณภาพ บาปเวรก็จะตกแก่เปรต กลายเป็นอกุศลกรรมถมทับซับซ้อนจนไม่อาจพบกับทางสว่างได้อีก เปรตรับฟังด้วยความสงบ แต่ยังไม่สามารภกระทำตามคำเทศนาของหลวงปู่แหวนได้ ท่านเห็นว่าเปรตยังมีมิจฉาทิฐิมั่นคงท่านก็ต้องวางตนอยู่ในอุเบกขา เมื่อเจริญภาวนาครบกำหนดตามที่ได้กำหนดเจตนาเอาไว้แล้ว หลวงปู่แหวนจึงจาริกลับมากราบเรียนถวายรายงานต่อท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ณ บ้านนาหมีนายูง ซึ่งท่านพระอาจารย์มั่น ก็ไม่ได้กล่าวว่ากะไร ภายหลังเมื่อพระอาจารย์มั่นมีโอกาสผ่านได้เมตตาโปรดเปรตตนนั้น และเปรตตนนั้นก็หลุดพ้นไปจากถ้ำได้ในที่สุด | |
ผู้แสดงความคิดเห็น คห ที่ 8 วันที่ตอบ 2008-09-30 18:42:13 IP : 125.26.171.120 |
[1] |
Copyright © 2010 All Rights Reserved. |
Visitors : 191906 |