ดาบน้ำพี้ที่ใหญ่ที่สุดในโลก
บ่อเหล็กน้ำพี้
สวัสดีครับ สาระน่ารู้จากพี่ใหญ่ วัชระ ศรีจามร จะพาไปเที่ยวสถานที่สำคัญ แลเกี่ยวข้องกับละครพระยาพิชัยดาบหัก นั้นคือ บ่อเหล็กน้ำพี้ ก็อย่างที่เราทราบกันว่า "เหล็กน้ำพี้" เป็นเหล็กที่มีคุณภาพดีที่สุดในประเทศไทย มีความแข็งแกร่งไม่เป็นสนิม เมื่อตีเป็นดาบหรืออาวุธ จะมีสีเขียวแวววาวเหมือนสีปีกแมลงทับ
บ่อเหล็กน้ำพี้ ที่รู้จักกันในปัจจุบัน อยู่หมู่ที่ ๑ บ้านน้ำพี้ ตำบลน้ำพี้ อยู่ห่างจากตัวจังหวัดประมาณ ๕๘ กิโลเมตร ตามเส้นทางหลวง แผ่นดินหมายเลข ๑๑ และเข้าทางหลวงหมายเลข ๑๒๔๕ บ่อเหล็กน้ำพี้เป็นบ่อเหล็กกล้า มีอยู่ด้วยกันหลายบ่อ แต่เท่าที่ปรากฎให้เห็นชัดเจนมีอยู่ ๒ บ่อ คือ "บ่อพระแสง" และ "บ่อพระขรรค์" โดยบ่อพระแสงจะเป็นบ่อที่มีเนื้อเหล็กดีที่สุดกว่าบ่ออื่นๆ บ่อพระขรรค์มีขนาดกว้าง ๑๒ เมตร ลึก ๗ เมตร แลบ่อพระแสง กว้าง ๒๐ เมตร ลึก ๑๐ เมตร ในสมัยโบราณ นายช่างผู้สร้างพระแสงดาบถวายพระมหากษัตริย์ จะนำเอาเหล็กน้ำพี้ที่บริเวณ บ่อพระแสงไปถลุงทำพระแสงดาบ ด้วยเหตุนี้ จึงได้ชื่อว่า "บ่อพระแสง" โดยห้ามมิให้ผู้ใดขุดเหล็กจากบ่อนี้ โดยสงวนไว้ใช้ทำพระแสงดาบสำหรับพระมหากษัตริย์เท่านั้น ส่วน "บ่อพระขรรค์" นายช่าง ก็จะนำเหล็กน้ำพี้จากบ่อนี้ ไปถลุงทำพระขรรค์ ซึ่งได้กล่าวเอาไว้ในประวัติศาสตร์หลายตอนด้วยกันว่า เหล็กจากบ่อน้ำพี้นี้ ได้นำเอาไปใช้ทำพระแสงของ้าวของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ดาบล้างอาถรรพ์ของสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ดาบฟ้าฟื้นของขุนแผนแสนสะท้าน ดาบนันทกาวุธของพระยาพิชัยดาบหัก นอกจากนี้ ยังได้นำไปเป็นส่วนผสมในการหล่อพระเครื่อง ผงว่าน และลูกประคำในสมัยก่อน เนื้อของเหล็กน้ำพี้จะมีผิวมันวาวคล้ายสีปีกแมงทับ มีความเหนียวไม่เปราะ ทั้งนี้ เนื่องจากเหล็กน้ำพี้เป็นเหล็กที่มีคุณภาพสูง มีความเชื่อมาแต่บรรพบุรุษว่า เป็นวัตถุอาถรรพ์ สามารถลบอำนาจลึกลับป้องกันเวทมนต์คาถา มีความคมวาว สีคล้ายปีกแมลงทับ เหนียวและอ่อน เคยมีการสำรวจแล้ว พบว่ามีคุณภาพสูงจริง แต่น่าเสียดาย ที่มีปริมาณน้อย ไม่เพียงพอต่อการทำอุตสาหกรรม ปัจจุบัน ได้จัดตกแต่งสถานที่ให้ดูร่มรื่น และสร้างอาคารพิพิธภัณฑ์ เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของบ้านน้ำพี้ และอำเภอทองแสนขัน ภายในบริเวณมีพิพิธภัณฑ์ รวบรวมหลักฐานต่างๆ เกี่ยวกับประวัติเหล็กน้ำพี้ โดยจัดแสดงและจำลองให้เห็นถึงกระบวนการ ขั้นตอนการตีเหล็กน้ำพี้ ตั้งแต่การขุดแร่เหล็กน้ำพี้ จนตีเป็นดาบที่มีความแกร่งและความคมเป็นเลิศ ดาบน้ำพี้จึงเป็นอาวุธคู่กายของขุนศึกและนักรบไทยในสมัยโบราณตลอดมา พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ เปิดเมื่อวันที่ ๑๒ สิงหาคม ๒๕๔๒ เปิดให้เข้าชมฟรีทุกวัน เวลา ๐๘.๐๐-๑๗.๐๐ น. สอบถามรายละเอียดได้ที่ อบต.น้ำพี้ โทร ๐-๕๕๔๗-๙๑๓๕ ในคราวหน้า จะพาไปดูเรื่องของการตีดาบเหล็กน้ำพี้กันครับ วันนี้ขอลาไปก่อน สวัสดีครับ