สวัสดีครับ สาระน่ารู้จากพี่ใหญ่ในวันนี้ ขอนำท่านไปรู้จักกับทุ่งลุมพลี ซึ่งในละครเรื่องมหาราชนเรศวรวีรกษัตริย์แห่งอโยธยา ตอนที่พระเจ้าบุเรงนองยกทัพมาคราวเสียกรุงครั้งแรก เมื่อมาตั้งทัพที่ทุ่งลุมพลี ได้ถูกปืนใหญ่ของกรุงศรีอโยธาระดมยิงจนต้องถอยทัพ \"ทุ่งลุมพลี\" เป็นพื้นที่ราบลุ่มทุ่งนา ตั้งอยู่บริเวณทิศตะวันตกเฉียงเหนือของเกาะเมืองกรุงศรีอยุธยา จึงเป็นสนามรบที่สำคัญในการทำศึกสงครามสมัยประวัติศาสตร์ที่กรุงศรีอยุธยารบกับพม่า เป็นสถานที่ที่เราสูญเสียสมเด็จพระศรีสุริโยทัยอัครมเหสี ซึ่งปลอมตัวเป็นชายเสด็จตามทัพของสมเด็จพระมหาจักรพรรดิไป ณ ทุ่งลุมพลี หรือทุ่งมะขามย่อง ชานพระนครด้านทิศเหนือ ครั้งศึกสงครามช้างเผือกกองทัพพม่ายกมาประชิดเขตเมืองใกล้ทุ่งลุมพลีพระมหาจักรพรรดิทรงให้กองทัพบก เรือ ระดมยิงใส่พม่าเป็นสามารถ แต่สู่ไม่ได้จึงถอย ทางพม่าจึงยึดได้ป้อมพระยาจักรี(ทุ่งลุมพลี) ป้อมจำปา ป้อมพระยามหาเสนา(ทุ่งหันตรา) แล้วล้อมกรุงศรีฯอยู่นาน พระมหาจักรพรรดิทรงเห็นว่าพม่ามีกำลังมากการที่จะออกไปรบเพื่อเอาชัย คงจะยากนัก จึงทรงสั่งให้เรือรบนำปืนใหญ่ล่องไปยิงทหารพม่าเป็นการถ่วงเวลาให้เสบียงอาหารหมด หรือเข้าฤดูน้ำหลากพม่าคงจะถอยไปเอง แต่พม่าได้เตรียมเรือรบ และปืนใหญ่มาจำนวนมากยิงใส่เรือรบไทยพังเสียหายหมด แล้วตั้งปืนใหญ่ยิงเข้ามาในพระนครทุกวัน ถูกชาวบ้านล้มตาย บ้านเรือน วัด เสียหายมาก ทางพระเจ้าหงสาวดีจึงมีสาสน์มาว่า จะรบต่อไปหรือยอมเป็นไมตรี เนื่องด้วยทางไทยเสียเปรียบมาก พระมหาจักรพรรดิจึงทรงยอมเป็นไมตรี ทำให้ฝ่ายไทยต้องเสียช้างเผือกจาก ๒ เชือก เป็น ๔ เชือก และทุกปีต้องส่งช้างให้ ๓๐ เชือก พร้อมเงิน ๓๐๐ ชั่ง จับตัวพระยาจักรี ไปเป็นตัวประกัน นอกจากนี้ยังจะขอเก็บภาษีอากรจากเมืองมะริดที่ขึ้นกับไทยอีกด้วย ขณะนั้นสมเด็จพระนเรศวรทรงพระชมมายุได้ ๙ พรรษาถูกนำเสด็จไปประทับที่กรุงหงสาวดีเพื่อเป็นองค์ประกันด้วย ในคราวสงครามเสียกรุงครั้งแรก พระเจ้าหงสาวดีให้ยกทัพมาตีกรุงศรีอยุธยารวมทั้งหมด ๗ ทัพ มีกำลังพลร่วม ๕ แสนคน ยกทัพมาทางด่านแม่ละเมาเข้าเมืองกำแพงเพชร ฝ่ายกรุงศรีอยุธยาเมื่อทราบว่าหัวเมืองทางเหนือเป็นของพม่าแล้ว จึงเตรียมรบอยู่ที่พระนคร นำปืนนารายณ์สังหารยิงไปยังกองทัพพระเจ้าหงสาวดีที่ตั้งอยู่บริเวณทุ่งลุมพลี ถูกทหาร ช้าง ม้าล้มตายจำนวนมาก พม่าจึงถอยทัพมาตั้งที่บ้านพราหมณ์ให้พ้นทางปืน แล้วพระเจ้าหงสาวดีจึงเรียกประชุมการศึก พระมหาอุปราชเห็นสมควรให้ยกทัพเข้าตีไทยทุกด้านเพราะมีกำลังมากกว่า แต่พระเจ้าหงสาวดีไม่เห็นด้วยเพราะกรุงศรีอยุธยามีทำเลดีมีน้ำล้อมรอบ จึงสั่งให้ตีเฉพาะด้านตะวันออก เพราะคูเมืองแคบที่สุด พม่าพยายามจะทำสะพานข้ามคูเมืองแต่ถูกทหารไทยยิงตายเป็นจำนวนมาก ( ศพแล้วศพเล่าที่นำดินมาถมสะพาน ) ปัจจุบันตำบลลุมพลี มีสภาพสังคมส่วนใหญ่เป็นชุมชนมุสลิม นับถือศาสนาอิสลาม เชื้อสายมาจากเมืองปัตตานี และเมืองไทรบุรี ทางหัวเมืองปักษ์ใต้ของประเทศไทย ประชากรส่วนใหญ่ประกอบอาชีพค้าขาย ประกอบไปด้วย ๖ หมู่บ้าน พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นที่ราบลุ่ม มีทุ่งนากว้าง และมีแนวลำคลองทั้ง ๔ ด้าน (ปัจจุบันน้ำแห้ง) เมื่อถึงฤดูน้ำหลากน้ำจะท่วมทุ่งลุมพลีทั้งหมด ประชาชนสร้างบ้านเรือนหนาแน่นบริเวณทุ่งด้านทิศเหนือและตลอดแนวลำคลอง มีพื้นที่ทั้งหมด ๖๗๘ ตารางกิโลเมตร หรือ ๔,๕๕๗ ไร่ ทิศเหนือ ติดกับ ต.วัดตูม อ.พระนครศรีอยุธยา ทิศใต้ ติดกับ ต.คลองสระบัว อ.พระนครศรีอยุธยาทิศตะวันออก ติดกับ ต.สวนพริก อ.พระนครศรีอยุธยา ทิศตะวันตก ติดกับ ต.ภูเขาทอง อ พระนครศรีอยุธยา สถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ เช่น วัดพระยาแมน (วัดร้าง) ปัจจุบันเป็นที่ตั้งพระบรมราชานุสาวรีย์ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช สาระน่ารู้จากพี่ใหญ่ในวันนี้ คงต้องจบเพียงเท่านี้ พบกันใหม่คราวหน้าสำหรับวันนี้โชคดีและมีความสุขครับ
