ทีมงานรังสิมันต์ขอไว้อาลัยต่อป้าโจ๊ว "เพ็ญศรี พุ่มชูศรี" ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง (เพลงไทยสากล-ขับร้อง) ประจำปีพุทธศักราช 2534 ผู้ที่มีผลงานการขับร้องมากว่า 60 ปี
อำลา..อาลัย "พี่โจ๊ว"
จากไปแล้ว ...กับบทเพลงสุดเขตสวรรค์ โพระดก และอีกหลายๆ เพลง ที่เป็นผลงานของพี่โจ๊ว ที่เคยบันทึกเสียงที่ห้องบันทึกเสียงยีซีม่อน...
ได้ทราบข่าวการจากไปของคุณสุวัฒน์ไม่นาน เพียงเดือนเดียวเท่านั้น ก็ได้ทราบข่าวการจากไปของพี่โจ๊ว (เพ็ญศรี พุ่มชูศรี) ผู้ที่เป็นภรรยาคู่ทุกข์คู่สุขที่แสนดี ของคุณสุวัฒน์เสียอีก นำพาความโศกเศร้ามาให้แก่ดิฉัน เป็นอย่างมาก และก็เชื่อว่า สำหรับผู้ที่เป็นคนดีอย่างเช่นคุณสุวัฒน์และพี่โจ๊ว สามีภรรยาที่น่ารักคู่นี้แล้ว มิว่าจะเป็นใครที่ได้รู้จัก ก็ต้องรู้สึกเศร้าโศกเสียใจเช่นเดียวกัน มิต่างไปจากดิฉันแน่
จำได้ว่า ดิฉันรู้จักกับคุณสุวัฒน์มาพร้อมกับพี่โจ๊วผู้ภรรยาเมื่อ ๔๐ กว่าปีก่อน ด้วยเราต่างก็ได้ร่วมงานกัน คุณสุวัฒน์รับเขียนบทละครวิทยุให้กับ "รังสิมันต์" พี่โจ๊วก็ต้องมาบันทึกเสียงที่ห้องอัดเสียงยีซีม่อน โดยที่มีสี่เสี่ย (สามีผู้ล่วงลับของดิฉัน) เป็นผู้ควบคุมการบันทึกเสียงอยู่เสมอ ต่างฝ่ายถึงต่างจะทำหน้าที่ แต่มิว่าจะเป็นใคร ก็จะได้แลเห็นทั้งความสามารถและความน่ารักของสามีภรรยาคู่นี้เป็นอย่างดี เวลาที่คุณสุวัฒน์เขียนบทละครส่งให้ไม่ทันเนื่องจากมีงานเขียนมาก และดิฉันไม่ได้ไปรับบท พี่โจ๊วก็กรุณานำเอาบทมาส่งให้ทันเวลาบันทึกเสียงทุกครั้ง ทำให้รังสิมีนต์เรามีละครส่งออกอากาศให้แฟนๆ ละครในยุคนั้น ได้รับความบันเทิงกันอย่างต่อเนื่องโดยมิได้ขาด เช่นเดียวกัน เมื่อละครรังสิมันต์ได้ยุติลง และห้องบันทึกเสียงยีซีม่อนก็ได้หยุดตัวลงในเวลาต่อมา ทั้งดิฉันและสี่เสี่ย ก็ได้ห่างเหินไปจากสามีภรรยาที่น่ารักคู่นี้ แต่ก็ได้รำลึกถึงกันอยู่เสมอ
กาลเวลาผ่านไป สี่สิบกว่าปีเหมือนพึ่งจะผ่านมาเมื่อวาน ทุกสิ่งทุกอย่างยังจดจำได้ติดตาอยู่อย่างไม่เคยลืม เมื่อได้ทราบข่าวการจากไปของคุณสุวัฒน์ ก็รู้สึกใจหาย ใจหนึ่งก็เสียใจและเสียดายที่สังคมเราต้องสูญเสียคนดีๆ ไปอีกหนึ่งคน แต่อีกใจหนึ่ง ก็คิดถึงพี่โจ๊ว ว่าจะเป็นอย่างไรบ้าง เพราะทั้งพี่โจ๊วและคุณสุวัฒน์ ต่างก็ได้อยู่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมาทั้งชีวิต อย่างที่หาสามีภรรยาคู่อื่นที่จะเป็นอย่างนี้ได้ยากนัก จนได้ทราบจากคุณอี๊ด น้องสาวพี่โจ๊ว ว่าพี่โจ๊วป่วยพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลตำรวจ ทุกคนปิดข่าว ไม่บอกเรื่องการจากไปของคุณสุวัฒน์ให้พี่โจ๊วได้รู้ ก็ทำให้รู้สึกสบายใจขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม ความรักที่บริสุทธิ์ของสามีภรรยาคู่นี้ ที่ถึงแม้นว่าจะจากกันไปได้มินาน เพียงเดือนเดียว ทั้งสองก็ได้พบกันอีก ทำให้อดรำลึกไม่ได้ ว่ามิเพียงแต่ผลงานอันยิ่งใหญ่ของท่านทั้งสองเท่านั้น ที่จะนำเอามาเป็นเยี่ยงอย่างของคนรุ่นต่อๆ ไปได้เป็นอย่างดี แม้แต่การดำเนินชีวิตคู่ด้วยความรักที่บริสุทธิ์ของท่านทั้งสอง ก็สมควรจะเอามาเป็นเยี่ยงอย่างได้เป็นอย่างดีเฉกเช่นเดียวกัน
ดิฉันมิได้มีโอกาสไปร่วมพิธีศพของทั้งสองท่าน ด้วยสุขภาพมิเอื้ออำนวย แต่ก็ได้ให้ลูกชายเป็นตัวแทนไปเคารพศพ และตัวดิฉันเองก็ได้ทำบุญอุทิศส่วนกุศล และสวดมนต์ภาวนาอธิษฐานจิตขอให้ดวงวิญญาณของท่านทั้งสอง จงได้ไปสถิตย์อยู่บนสรวงสวรรค์ และได้อยู่ครองคู่กันอย่างมีความสุขตราบจนชั่วนิจนิรันดร์ด้วยเทอญ
บุบผา จิรา
18 พฤษภาคม 2550